X

ยาละลายลิ่มเลือด และยาต้านการแข็งตัวของเลือด ต่างกันอย่างไร

ยาละลายลิ่มเลือด และยาต้านการแข็งตัวของเลือด ต่างกันอย่างไร

 

ยาละลายลิ่มเลือด และยาต้านการแข็งตัวของเลือด ต่างกันอย่างไร หลายท่านคงได้ยินชื่อยา 2 ชื่อนี้บ่อยๆ ซึ่งมีชื่อเรียกคล้ายๆกัน คงมีใครสงสัยว่าเป็นยาตัวเดียวกันหรือไม่ และความหมายของยาดังกล่าวมีความหมายว่าอย่างไร วันนี้Giffarineclub จะมาไขข้อสงสัยและให้ความกระจ่าง และอย่างน้อยจะเป็นความรู้ว่าถ้าเราเคยทานยาสองตัวดังกล่าวแล้วนั้น อาหารเสริมอะไรที่ต้องห้ามรับประทาน เรามาอ่านรายละเอียดกันเลยค่ะ

 

คำถาม : ยาละลายลิ่มเลือด กับยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือเกล็ดเลือดเป็นตัวเดียวกันมั้ยค่ะ

คำตอบ : คนละตัวกันครับ แต่ผลออกมาอย่างเดียวกัน คือทำให้เลือดหยุดยากขึ้น เลือดออกมากในบางราย เส้นเลือดในสมองแตกได้ ถ้ามีความดันสูงและเลือดออกที่อื่น เช่นมีแผล มีดบาด ก็จะหยุดยาก และข้อห้ามก็อย่างเดียวกัน จะถอนฟัน จะผ่าตัดต้องหยุดยาล่วงหน้า 7 วัน เหมือนกัน การตอบสนองต่อยาในบางคนไม่เท่ากัน คือได้นิดหน่อยก็เหมือนได้มาก เป็นต้น หลายแห่งต้องใช้ใบรับรองแพทย์ว่า ผ่าตัดได้ ถอนฟันได้ จึงจะยอมทำฟัน หรือผ่าตัดให้ ส่วนอาหารเสริมนั้นก็ห้ามแบบเดียวกัน ยาจำพวกนี้จะได้รับเสมอ ในคนไข้โรคหัวใจขาดเลือด เจ็บหน้าอก เส้นเลือดหัวใจตีบ ทำบายพาส ใส่บอลลูน และคนไข้เส้นเลือดสมองตีบ เป็นอัมพฤษ อัมพาต นอกนั้นจะได้ในบางรายที่แพทย์สั่งเป็นพิเศษ

 

ดังนั้นถ้ามีประวัติเส้นเลือดสมองแตก หรือทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือเกล็ดเลือด เราจะห้ามอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเกร็ดเลือด ได้แก่ แปะก๊วย ,โสม ,กระเทียม ,น้ำมันปลา ,ถั่งเช่า, เกรป ซี – อี, น้ำมันดาวอินคา (มีโอเมก้า 3),เห็ดหลินจือ, ว่านชักมดลูก, เจียวกู่หลาน ,น้ำมันอีฟนิงพริมโรส, โคเอนไซด์ คิว – เทน, ขมิ้น ,น้ำมันมะกอก, เรสเวอรทรอล ,ปัณจะภูตะ (เพราะมีส่วนผสมของ โสมและเห็ดหลินจือ) และชาเขียว อาหารเสริมเหล่านี้มีงานวิจัยว่ามีผลต่อเกร็ดเลือด

ยาต้านการแข็งตัวของเลือดมักได้แก่ ยาวาฟาริน ออฟาริน  ส่วนยาต้านการแข็งตัวเลือด ได้แก่ แอสไพริน โคดิโพลเกล เช่น พราวิกซ์

 

สนใจสมัครตัวแทนหรือสั่งซื้อ ติดต่อ id : @clubgiff / T.083-462 5537

สั่งซื้อออนไลน์ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Fanpage : Giffarine Club
Email : imkanokwan1980@gmail.com
โทร. 083-4625537 /Line id : @clubgiff

Facebook Comments