กิฟฟารีน สาระน่ารู้เกี่ยวกับน้ำมันมะกอก ไฮดรอกซีไทโรซอล วิตามินอี และโทโคไตรอีนอล
กิฟฟารีน สาระน่ารู้เกี่ยวกับน้ำมันมะกอก ไฮดรอกซีไทโรซอล วิตามินอี และโทดคไตรอีนอล น้ำมันมะกอกแคปซูลเจล ตัวใหม่ล่าสุดของกิฟฟารีน เป็นสารสำคัญที่มีความเข้มข้นสูงที่สุดถ้าเทียบกับปริมาณที่ใส่เข้าไปตามท้องตลาดที่มีอยู่ ซึ่งปริมาณสารสำคัญใน 1 แคปซูล เทียบเท่ากับของท้องตลาดทั่วไป เท่ากับ 8 แคปซูล ซึ่งถือว่ามีความเข้มข้นมากๆ ฉะนั้นแล้วการที่เราจะเลือกรับประทานให้ได้ประโยชน์และคุ้มค่าที่สุดแล้วนั้น ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจได้อย่างไม่ลังเลเลยทีเดียว
สาระน่ารู้ เกี่ยวกับน้ำมันมะกอก ไฮดรอกซีไทโรซอล วิตามินอี และโทโคไตรอีนอล
Hydroxytyrosol เป็นสารประกอบโพลีฟีนอล โมเลกุลเดี่ยว ที่พบได้ในน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์และน้ำที่ได้จากการบีบมะกอก มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ชะลอวัย และต้านโรคเรื้อรังได้หลากหลาย
น้ำมันมะกอก ถูกใช้ในการประกอบอาหาร มาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 5,000 ปี โดยแหล่งปลูกมะกอกที่ขึ้นชื่อมากที่สุดในโลก คงหนีไม่พ้นประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแน่นอน จึงไม่แปลกที่ผู้คนเหล่านั้นจะนิยมรับประทานมะกอกและน้ำมันมะกอกกันอย่างแพร่หลาย โดยประเทศที่ผลิตและส่งออกน้ำมันมะกอกรายใหญ่ที่สุด ได้แก่ สเปน ซึ่งสามารถผลิตได้มากถึง 1,359,200 ตันต่อปีเลยทีเดียว และสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพที่พบมากในน้ำมันมะกอก คือ สารไฮดรอกซีไทโรซอล (Hydroxytyrosol) ซึ่งมีมากในน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษที่ผ่านกระบวนการผลิตแบบ 9 ขั้นตอน
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ (Extra Virgin Olive Oil)
เป็นน้ำมันมะกอกที่ผ่านกระบวนการ 9 ขั้นตอน ซึ่งทำให้น้ำมันมะกอกที่ได้มีคุณภาพดีที่สุดในโลก และให้สาร Hydroxytyrosol และกรดไขมันโอเมก้า 9 ปริมาณสูงมาก (น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันธรรมชาติที่มีกรดไขมันโอเมก้า 9 สูงที่สุดในโลกสูงถึง 80 % ) ดังนั้น สารสกัดที่ได้จะมีสาร Hydroxytyrosol เข้มข้นที่สุด และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพและความงามอย่างแท้จริง ปัจจุบันมีนวัตกรรมการสกัดสาร Hydroxytyrosol จากผลมะกอกให้ได้สาร Hydroxytyrosolที่เข้มข้นกว่าน้ำมันมะกอกชนิด Extra Virgin Olive Oil ทั่วไปหลายสิบเท่า ทำให้เราสามารถรับประทานสาร Hydroxytyrosolเข้มข้นเพียง 1 แคปซูล แต่จะได้รับสารเท่ากับการรับประทานน้ำมันมะกอกชนิด Extra Virgin Olive Oilถึง 80 แคปซูลเลยทีเดียว
คุณประโยชน์ของ Hydroxytyrosol ในน้ำมันมะกอกและสารสกัดจากผลมะกอก (อ้างอิงที่ 1-19)
Hydroxytyrosol เป็นสารประกอบโพลีฟีนอล โมเลกุลเดี่ยว ที่พบได้ในน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์และน้ำที่ได้จากการบีบมะกอก มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ชะลอวัย และต้านโรคเรื้อรังได้หลากหลาย ซึ่งมีงานวิจัยพบว่า ดูดซึมได้ดี (มีBioavailibilityสูง) ทำให้ออกฤทธิ์ในร่างกายได้ดี จึงส่งผลดีต่อร่างกายในหลายๆด้าน โดย Hydroxytyrosolมีคุณประโยชน์ ดังนี้
– เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง (เหนือกว่าวิตามินซี 166 เท่า และมีค่า ORAC สูงถึง 42,560) และดูดซึมได้ดี โดยสามารถตรวจพบ Hydroxytyrosol ในเลือดได้ หลังจากรับประทานไป 30 นาที – 1 ชั่วโมง
– ช่วยกำจัดสารพิษ เพิ่มภูมิคุ้มกัน และเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระเนื่องจาก Hydroxytyrosolช่วยเพิ่มระดับกลูตาไธโอนในร่างกาย ได้อย่างมีนัยสำคัญ
– จากการศึกษาในเซลล์ผิวมนุษย์พบว่าเซลล์ผิวที่ได้รับสารไฮดรอกซีไทโรซอลจะมีการสร้างกลูตาไธโอนในเซลล์เพิ่มขึ้น โดยปริมาณการสร้างจะมากขึ้นเมื่อได้รับสารไฮดรอกซีไทโรซอลมากขึ้น
1. ช่วยลดจุดด่างดำและความหมองคล้ำ มีงานวิจัยว่าช่วยยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสและยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน
2. จากการศึกษาเปรียบเทียบสารในกลุ่มต้านอนุมูลอิสระในระดับเซลล์ซึ่งได้แก่ วิตามินซี กรดโคจิก ( Kojic acid) และ Hydroxytyrosol ผลพบว่า จะใช้ไฮดรอกซีไทโรซอลในปริมาณที่น้อยกว่าวิตามินซีและกรดโคจิกมาก เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานินที่เท่ากัน นั่นสามารถสื่อได้ว่า ไฮดรอกซีไทโรซอลยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินได้ดีกว่าวิตามินซีและกรดโคจิกหลายสิบเท่า
3. การทดลองในหนูทดลองที่ให้รับรังสีUVB ในปริมาณควบคุม พบว่าหนูที่ได้รับ Hydroxytyrosolมีจำนวนเซลล์เมลาโนไซต์ ที่ทำหน้าที่ในการสร้างเม็ดสีเมลานินในปริมาณที่ต่ำกว่าหนูที่ไม่ได้รับ จึงส่งผลให้สีผิวดำขึ้นมากในหนูที่ไม่ได้รับ Hydroxytyrosol
4. ปกป้องผิวจากรังสี UVB และชะลอการเสื่อมของผิวพรรณ
5. ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ จึงช่วยชะลอความชรา และความเสื่อมต่างๆ ในร่างกาย
6. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
7. ได้รับการรับรองจาก EFSA ซึ่งเป็นหน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรป(European Food Safety Authority) ให้สามารถกล่าวอ้างทางสุขภาพได้ว่า มีความสัมพันธ์ระหว่าง 8. การบริโภคของสารโพลีฟีนอลในน้ำมันมะกอก (ที่มีการควบคุมปริมาณ Hydroxytyrosol และอนุพันธ์ ในปริมาณที่ชัดเจน) กับการป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการออกซิเดชั่นของ LDL ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจ
9. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระขั้นต้น ได้แก่ SOD, Glutathione peroxidase, Catalase
10. ช่วยต้านการเกิดมะเร็งตับ
11. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบประสาท
12. ช่วยป้องกัน Metabolic syndrome และภาวะผิดปกติอื่นๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันในเลือดสูง และภาวะไขมันผิดปกติ
คุณประโยชน์ของกรดไขมันโอเมก้า 9 ในน้ำมันมะกอก Extra Virgin Olive Oil
1. ดีที่สุดในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และผม เพราะไขมันที่ผิวหนัง และเส้นผมมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับกรดไขมันโอเมก้า 9 มากที่สุด
2 ปรับสมดุลของกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6
3. ปกป้องไขมันจากการจู่โจมของสารอนุมูลอิสระเท่ากับปกป้องทุกเซลล์ของร่างกายเพราะในทุกเซลล์มีไขมันเป็นส่วนประกอบ
4. ลดการอักเสบ ลดการหดตัวของหลอดเลือดและหลอดลม
5. ลดไขมันชนิดเลว ( LDL) เพิ่มไขมันชนิดดี ( HDL)
6. ป้องกันโรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต มะเร็ง ฯลฯ
วิตามินอีจากธรรมชาติ (Natural Vitamin E) สกัดจากถั่วเหลือง (อ้างอิงที่ 20)
วิตามินอีเป็นสารประกอลกลุ่ม Tocopherol เป็นวิตามินชนิดหนึ่งที่ละลายในไขมัน ซึ่งมีคุณประโยชน์ดังนี้
1.เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
2.ช่วยทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้น นุ่มนวล
3.ป้องกันการแตกสลายของเยื่อหุ้มเซลล์ ทำให้เม็ดเลือดแดงไม่แตกง่าย
4.จำเป็นต่อการเจริญและพัฒนาต่อเซลล์ประสาท
โทโคไตรอีนอลจากธรรมชาติ (Natural Tocotrienol)สกัดจากผลปาล์มแดง (อ้างอิงที่ 21-31)
เป็นอนุพันธ์หนึ่งของวิตามินอีที่พบได้ตามธรรมชาติ ได้แก่ น้ำมันจมูกข้าว ข้าวบาร์เล่ย์ข้าวไรน์และน้ำมันจากปาล์มสีแดง แต่ในน้ำมันจากปาล์มสีแดงจะมีปริมาณโทโคไตรอีนอลสูงที่สุดถึง 800 ppm ซึ่งมีคุณประโยชน์ดังนี้
1.มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระมากกว่า วิตามินอี ถึง 60 เท่า
2.ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
3.ช่วยลดความแข็งตึงของหลอดเลือด
4.ช่วยปกป้องระบบประสาทและช่วยให้การเรียนรู้ดีขึ้น
5.ช่วยเพิ่มจำนวนเส้นผม
ดังนั้น การเสริมน้ำมันมะกอกชนิด Extra Virgin Olive Oil (ที่มีโอเมก้า 9 สูง) และสารสกัดเข้มข้นจากผลมะกอกที่มี ไฮดรอกซีไทโรซอลเข้มข้น ควบคู่กับวิตามินอีธรรมชาติ (สกัดจากถั่วเหลือง) และโทโคไตรอีนอลจากธรรมชาติ (สกัดจากผลปาล์มแดง) จึงช่วยดูแลผิวพรรณให้ดูอ่อนวัย กระจ่างใส หลอดเลือดและหัวใจแข็งแรง ต้านเบาหวาน , ต้านมะเร็ง ทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมอื่นๆ อีกมากมาย
เอกสารอ้างอิง :
1.Tomohiro Chiba. 2004. New Functional Ingredient Research Group.
2.Tomohiro Chiba. 2005. Food Style 21 M.
3.Echeverri. et al. 2017. Int. J. Mol. Sci.
4.Lopez. et al.2017. Journal of functional Foods.
5.Tejada. et al. 2017. Current drug targets
6.Bulotta. et al. 2014. Journal of translational medicine.
7.Zhao. et al. 2014. Cancer letters.
8.Rodriguez-Morato. et al. 2015. Molecules 20.3
9.Peyrol. et al. 2017. Nutrient.
10.Bulotta et al. 2014. Journal of translational medicine.
สนใจสมัครตัวแทนหรือสั่งซื้อ ติดต่อ id : @clubgiff / T.083-462 5537
สั่งซื้อออนไลน์ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Fanpage : Giffarine Club
Email : imkanokwan1980@gmail.com
โทร. 083-4625537 /Line id : @clubgiff